สื่อดัง ส่องความเห็นชาวไต้หวัน เลือกตั้งไต้หวัน 2024

13 ม.ค. 67 การเลือกตั้งประธานาธิบดีและการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาไต้หวันมาถึงแล้ว โดยสิ่งที่หลายฝ่ายจับตามองและติดตามอย่างใกล้ชิด คือ โฉมหน้าของว่าที่ประธานาธิบดีคนต่อไป เนื่องจากแคนดิเดตของแต่ละพรรคมีนโยบายที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดสถานะความตึงเครียดบบนช่องแคบไต้หวันว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นหรือไม่

 สื่อดัง ส่องความเห็นชาวไต้หวัน เลือกตั้งไต้หวัน 2024

โดยมี 3 แคนดิเดตจาก 3 พรรคได้แก่ “ไล่ ชิงเต๋อ” หรือ “วิลเลียม ไล่” จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิในการปกครองตนเองของไต้หวันอย่างแข็งขัน

นานาชาติจับตาโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งไต้หวัน-ชี้วัดความตึงเครียดคำพูดจาก สล็อตออนไลน์!

ไต้หวันเตือนการโจมตีทางอากาศทั่วเกาะ หลังจีนปล่อยดาวเทียม

ผู้นำจีน ส่งสัญญาณผนวกไต้หวันผ่านสุนทรพจน์

“โหว โหย่วอี๋” จากพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) ที่ดูมีความใกล้ชิดกับจีนแผ่นดินใหญ่ และ “เค่อ เหวินเจ๋อ” จากพรรคประชาชนไต้หวัน (TPP) ผู้ประกาศว่าตัวเองจะเป็น “ทางเลือกที่สาม” สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่อาจไม่ต้องการจะยั่วยุต่อต้านจีนหรือยอมโอนอ่อนผ่อนตามจีน

พร้อมกันนี้ สำนักข่าวอัลจาซีรา ได้ลงพื้นที่สอบถามความเห็นประชาชนชาวไต้หวันผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งบางส่วน มาให้ได้รับฟังกัน

เริ่มจากรายแรกคือ เคธี เฉิง วัย 42 ปี กล่าวว่า ตัดสินใจเลือกพรรคประชาชนไต้หวัน เนื่องจากพรรคให้ความสำคัญกับประเด็นเด็กและสังคม โดยเธอไปที่หน่วยเลือกตั้งพร้อมพ่อและลูกสาววัยหกขวบ

นอกจากนี้ เธอยังกล่าวถึงบรรยากาศการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า เป็นบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทางมาเลือกตั้ง กระบวนการต่าง ๆ เป็นไปอย่างสงบ มีเจ้าหน้าที่คอยให้การช่วยเหลือและจัดระเบียบอยู่ตลอดเวลา จึงรู้สึกมั่นใจในระบบการเลือกตั้งครั้งนี้

เฉิง เสริมว่า การลงคะแนนเสียงมีความหมายต่อเธอมากในฐานะประชาชนชาวไต้หวัน เธอบอกลูกสาวว่า การลงคะแนนเสียงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเราสามารถแสดงความเห็นผ่านการโหวตได้ และเมื่อสิ้นสุดการหาเสียง ประชาชนชาวไต้หวันสามารถลงคะแนนเสียงอย่างสงบ และปลอดภัย ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับประชาธิปไตยโดยตรง

ด้าน โมนิกา ลี วัย 71 ปี กล่าวว่า ได้ลงคะแนนเสียงให้กับพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า โดย ลี เล่าว่า พ่อของเธอเคยทำงานให้กับฝ่ายบริหารอาณานิคมของจักรวรรดิญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนที่จะถูกทำให้พิการช่วงทศวรรษ 1950 หรือช่วงแรกของการสังหาร และปราบปรามผู้ที่ถูกมองว่ามีความเห็นต่างทางการเมืองของพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ความน่าสะพรึงสีขาว” (White Terror)

ต่อมาในปี 2014 เธอโหวตให้ เค่อ เหวินเจ๋อ จนได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีของไทเปในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม หลักจากที่ เค่อ มีบทบาททางการเมืองมากขึ้น เขาได้เดินทางไปเยือนจีนหลายครั้ง

ประกอบกับในการเลือกตั้งครั้งนี้ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชนไต้หวัน ก็ประกาศว่าจะวางตัวเป็นกลาง ไม่โอนอ่อนหรือต่อต้านจีน ทำให้ ลี หันไปเลือกพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าแทน เนื่องจากหมดศรัทธาในตัว เค่อ

ฝั่ง กัววา ไหล วัย 28 ปี กล่าวว่า ในหน่วยเลือกตั้งบริเวณย่านชุมชนของตนในกรุงไทเป ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ และเพื่อนของตนรู้สึกไม่มั่นใจว่าพรรคที่เลือกไปจะได้รับชัยชนะ

ไหล กล่าวว่า เพื่อนของตนส่วนใหญ่ลงคะแนนเสียงให้พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า และเมื่อวันที่ 11 มกราคม ก็ได้ลงไปยังถนนไคทาเก๋อลั๋น เพื่อหาเสียงให้กับพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าด้วย อย่างไรก็ตาม ตนได้เห็นผ่านสื่อต่าง ๆ ในวันต่อมาว่า ผู้สนับสนุน โหว โหย่วอี๋ จากพรรคก๊กมินตั๋ง มีเป็นพัน ๆ คนที่ลงมาช่วยหาเสียงในบริเวณที่อยู่ของตน จึงเริ่มเกิดความกังวลขึ้น

ด้าน รอส เฟนโกลด์ ทนายความ และนักวิเคราะห์การเมืองในกรุงไทเป ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับจีน จะเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคำนึง แต่ก็ยังห่างไกลจากความกังวลเพียงอย่างเดียวของประชาชนชาวไต้หวัน นั่นคือค่าครองชีพและค่าที่อยู่อาศัยที่สูง

เฟนโกลด์ กล่าวว่า ไต้หวันมีปัญหาการคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นซ้ำ ๆ เช่นเดียวกับประเทศอื่น รวมถึงมีประเด็นการเลือกที่รักมักที่ชังภายใต้การนำของพรรคการเมืองต่าง ๆ ในไต้หวันด้วย

เฟนโกลด์เสริมว่า “ผมคิดว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวไต้หวัน ต้องการทราบว่าบุคคลที่จะนำพวกเขาในอีกสี่ปีข้างหน้าคือคนที่ซื่อสัตย์จริง ๆ”

สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีและการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาไต้หวัน จะจัดให้ประชาชนเข้าเลือกตั้งได้ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

เรียบเรียงจาก Al Jazeera